OO Gundam

OO GUNDAM season 1
       หนังการ์ตูนเรื่องนี้เริ่มต้นโดยมีฉากเบื้องหลังคือโลกในปี A.D. (คริสต์ศักราช) 2307 มนุษย์ได้คิดค้นสร้างลิฟต์ขึ้นสู่วงโคจรนอกอวกาศและระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นอกชั้นบรรยากาศโลก และเริ่มใช้จริงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนน้ำมันที่ถูกขุดขึ้นมาใช้จนเกือบหมด แต่ในการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และลิฟต์อวกาศนั้นจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนและทรัพยากรในการก่อสร้างอย่างมหาศาล ซึ่งผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์และได้รับผลประโยชน์นั้น มีเพียง 3 ขั้วมหาอำนาจเท่านั้น ได้แก่

Union
นำโดยสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย มีสมาชิกคือ

กลุ่มประเทศในอเมริกากลาง ได้แก่ บาฮามาส, คิวบา, จาเมกา, เฮติ, โดมินิกัน และประเทศอื่นๆ
กลุ่มประเทศในอเมริกาใต้ ได้แก่ โคลัมเบีย, เวเนซุเอลา, กายอานา, ซูรินาเม, เฟรนซ์ เกียนา, บราซิล, เอกวาดอร์, เปรู, โบลิเวีย, ปารากวัย, อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, และ ชิลี บริเวณอื่น ได้แก่ เม็กซิโก และนิวซีแลนด์

 HRA (The Humanity Reformation Association)
นำโดยจีน รัสเซีย อินเดีย มีสมาชิกคือ
ประเทศในเอเชียตะวันออก ได้แก่ เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, ไต้หวัน
ประเทศในเอเชียใต้ ได้แก่ บังกลาเทศ, ศรีลังกา, เนปาล และ ภูฏาน (ยกเว้นปากีสถาน)
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า, เวียดนาม, ลาว, ไทย, กัมพูชา, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, บรูไน และ ติมอร์เลสเต บริเวณอื่นๆ ได้แก่ ปาปัวนิวกินี
AEU (The Advanced European Union)
มีสมาชิกคือ ไอซ์แลนด์, สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส, อิตาลี, สวิสเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก, โปแลนด์, สวีเดน, ฟินแลนด์, นอร์เวย์, โรมาเนีย, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก, เยอรมนี, ออสเตรีย, กรีซ, เบลารุส, และประเทศอื่นๆ

       ถึงแม้ทั้งสามขั้วมหาอำนาจจะไม่ก่อสงครามต่อกันถึงขั้นแตกหักต่อกันก็ตาม ต่างฝ่ายต่างก็แข่งขันกันคิดค้นพัฒนายุทโธปกรณ์ทางการทหารกันอย่างไม่ยั้งมือ เกิดเป็นสงครามเย็นที่ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีวันจบ ส่วนประเทศขนาดเล็กที่ไม่ได้เข้าร่วมขึ้นอยู่กับขั้วมหาอำนาจใดเลย ต้องตกอยู่ในสภาวะยากไร้ขาดแคลน มีการต่อสู้แย่งชิงและเกิดสงครามภายในประเทศขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

      ในยุคแห่งความวุ่นวายสับสนเช่นนี้ องค์กรลับนาม เซเลสเชียลบีอิง ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการต่อต้านและหยุดยั้งสงครามทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในโลก โดยมีคติว่า "เราจะหยุดสงครามด้วยสงคราม" โดยใช้อาวุธที่ใช้เตาพลังงานแสงอาทิตย์ GN ไดรฟ์ นาม "กันดั้ม" ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอาวุธในปัจจุบัน เพื่อการดำเนินแผนการณ์ตามอุดมการณ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

OO Gundam season2

        ปีคริสต์ศักราช 2312 ภายหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเซเลสเชียลบีอิงกับกองกำลังสามขั้วอำนาจโลก เหล่าขั้วอำนาจได้รวมตัวกันก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา ซึ่งมีกองกำลังของตนเองเพื่อความมั่งคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโลก และได้มีการก่อตั้งกองกำลังอิสระนามว่า A-laws ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยของโลกใบนี้ หากแต่เบื้องหลังนั้น A-laws เป็นกำลังที่จะกำจัดผู้ที่ขัดขืนต่อต้านสหพันธ์โลกด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เหล่าผู้คนที่ไม่พอใจต่อการกระทำนี้จึงรวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านในนาม "คาตารอน" (Kataron) ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ทำให้โลกยังไม่อาจจะพบสัญญาณแห่งความสงบสุขได้เลย และภายใต้ความสับสนวุ่นวายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ตอนนี้นั้น กองกำลังเซเลสเชียลบีอิงซึ่งได้รับการฟื้นฟูขั้นใหม่ได้พร้อมที่จะแสดงตนเองเพื่อยับยั้งสงครามครั้งใหม่นี้อีกครั้ง

Gundam OOF

      เนื้อเรื่องคล้ายกับ 00P ที่ไม่ค่อยมีอะไรเลย(เหมือนคอยดูกระแสก่อนมั้ง)ก่อนจะเริ่มมีมาในช่วงหลัง เพียงการดูการสนับสนุน CB ทีมหลักเท่านั้น ไม่มีอะไรเลยจริงๆ หลักๆอยู่ที่ท้ายช่วงแรกที่ กลุ่ม ทรินิตี้ อ้างคำสั่งเวด้าให้มารับ เตาของ 0 กันดั้ม(ที่เฟรันชูเทใช้อยู่) เนื่องจากฟอนมีนิสัยขัดขืนอยู่แล้วและแนวทางของเฟรันชูเทเองมีสิทธิทำงาน โดยอิสระจากเวด้า(เพราะไม่ใช่ CB เนื่องจากแยกองค์กรมาแล้ว และโดยขณะที่ทรินิตี้มาเอานั้นมีเรื่องต้องสงสัย) ฟอนเลยสู้ตายจนทำให้ปลอกคอระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสจากการสั่งการของเนน่าได้รับการช่วยเหลือจากฮานาโย(ที่ตัดสินใจตัดขาดจากเวด้า ติดตามฟอร์นแทน)ทำลายพลูโตเน่ทิ้ง เพื่อให้ ทรินิตี้เข้าใจผิด แล้วพาฟอร์นหนีด้วยคอร์ไฟเตอร์(กระจายอนุภาค GN หลอกด้วย) เฟรันชูเทหมดบทไปพักหนึ่งก่อนที่ฟอร์นจะฟื้นขึ้นมานำแอสเทรอา type F ไปเก็บซากของสงครามระหว่าง CB กับ UN (ท้ายภาค S1) เป็นคนกู้เตาของคิริออส แม้จบ 00 S1 จะแสดงเพียง การหักหลังของรีบอร์นมีเพียงการส่อเคล้าที่จะยึดอำนาจของรีบอร์นเท่านั้น 00F คือการขึ้นสู่อำนาจแบบเต็มตัวจากมุมมองขององค์กรณ์ย่อย เฟรันชูเท ที่เสียองค์กรณ์หลักอย่าง CB ไปพยายามดิ้นรนท่ามกลางเหตุการณ์ที่สับสน ฟอร์นสปาร์คสมาชิกองกรณ์กลับมุ่งเป้าไปหาผู้ยึดครองเวด้าอย่างรีบอร์นแบบบ้าคลั้งจนนำไปสู่ข้ออ้างในการก่อตั้งองกรณ์ A-law ภายใต้การชักนำของรีบอร์น แม้เหตุการณ์จะจบลงด้วยความล้มเหลวของฟอร์น แต่ก็แสดงถึงการที่มีมนุษย์ธรรมดาสามารถลูบคมอินโนเวดได้ พร้อมการกำเนิดเหล่าผู้สืบทอดที่ยื้อเหตุการณ์จนฟื้นฟู CB ได้อีกครั้ง

Gundam 00I

       Gundam OOI เป็นมังงะที่ลงต่อจาก Gundam OOF ( "I" ย่อมาจากคำว่า "Inovade(อินโนเวด)") เนื้อเรื่องในภาคนนี้จะดำเนินไปพร้อมกับ Gundam OO S2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอินโนเวดที่บอกถึงภารกิจที่สำคัญของเหล่าอิโนเวดทั้งหลายที่มีอยู่ ซึ่งในภาคนนี้จะยังเป็นการเผิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับอินโนเวดทั้งหมดอีกด้วย

        เปิดเรื่องด้วย รีพ เรคทาทิโอ อินโนเวเดอร์ที่ดำรงชีวิตตามใปกติโดยไม่ได้ทราบถึงการที่ตนเป็นอินโนเวเดอร์เลย จนกระทั้ง การปรากฏตัวของ exia repair ในอวกาศที่ส่งภาพเข้าจากหลุยสู่รีบอร์น โดยรีพกลับได้รับภาพ(เนื่องจากเป็นไทป์เดียวกับรีบอร์น) จนทำให้เกิดอาการประหลาด การแทรกซ้อนทางจิต(บุคคลิกของ บีไซส์ เพ้นออกมาแวบนึง) หลังจากนั้น รีฟก็ถูกชักจูงโดย เธอริคายย่า เฮอร์ฟี่ หมอเถื่อนที่เป็นอินโนเวเดอร์เช่นกันชักนำรีฟสู่โลกของอินโนเวเดอร์ ได้นำพาเขาไปพบกับเพื่อนอินโนเวเดอร์คนอื่น เเละรีฟก็ฝันถึง ตัวเองขับ ไอ กันดั้ม เเต่ว่าที่จริงเเล้วคนที่ขับคือ บีไซด์ เพน ซึ่งกำลังต่อสู้กับ ราเซลกันดั้ม ซึ่งขับโดยเกรฟ(เหตุการณ์ในภาค OOP) จากนั้น รีฟก็โดน บีไซด์ยึดร่างคืนเเละเตรียมทำการปลดผนึก ไอ กันดั้ม ใหม่อีกครั้ง...

       ทาง CB ชาร์ลได้รับรายงานเรื่องการปลดผนึกไอกันดั้มของรีพ จากฮิ๊กซ่า พร้อมทั้งระแวงเรื่องบุคคลิกของบีไซส์อาจจะเผยออกมายึดร่างรีฟคืนก็ได้ (เเต่ก็เกิดไปเเล้ว) ทางด้าน ฟอน สปาร์ค ก็ขับ Gundam Astrea Type F2 อย่างบ้าคลั่งออกไปถล่มพวก A-law ซะราบเป็นหน้ากอง จากนั้นฟอนก็ได้ปะทะกับ ไอกันดั้ม ที่ขับโดยรีพที่โดนบีไซด์ยึดร่างไป ก็เอาชนะจนได้ร่างของ รีพ กลับคืนมา เเต่ทว่าบีไซด์ก็ได้ย้ายร่างไปไว้ที่อื่นเเล้ว พร้อมกับพัฒนา 1.5 กันดั้มไปด้วย.....จากนั้นฮิ๊กซ่าก็ได้ปะทะกับบีไซด์เเต่ก็เเพ้อย่างหมดรูปเพราะ ประสิทธิภาพของเรเซลเเละ 1.5 กันดั้ม มันต่างกันมาก เเต่ฮายานะ ก็พาฮิ๊กซ่าหนีออกมาจนได้ (เหตุกาณณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่ทาง CB โจมตีฐานหลัก พวก A-Law ฉากเปิดตัว OO RAISER)

"กลุ่ม 6 สหาย" ของอิโอเลีย ที่กล่าวถึงการที่อินโนเวดทรยศ อิโอเลียได้ตั้งโปรแกรมซ้อนไว้เพื่อแก้ไขเหตุการณ์โดยจะมีอินโนเวด 6 คนที่ไม่โดนความคุมและไม่คิดทรยศ เพื่อที่จะแก้ไขเหตุการณ์กลับเป็นอย่างตนตั้งใจ ทำให้รีพเองตัดสินจะรวบรวม กลุ่ม 6 สหายขึ้นไม่ว่าตนจะเป็น 1 ใน 6 คนนั้นหรือไม่ก็ตาม ทำให้ฮิ๊กซ่ากับฟอนก็มาร่วมเเจมด้วย จากนั้น ฮิ๊กซ่าก็ได้ปะทะกับ บีไซด์อีกครั้งเเละฮิ๊กซ่าก็ปิดฉากความเเค้น กว่า7 ปี ที่บีไซด์ทำให้เกรฟต้องตายไปใด้ในที่สุด...สุดท้ายบีไซด์ก็ตายในที่สุด รีฟจึงยึด 1.5 กันดั้มาใช้เพื่อตามหา กลุ่ม6 สหายต่อไป ในเหตุกาณณ์นี้ทำให้เกิดเหตุกาณณ์ที่ ฮามียะ สารมารถใช้ความสามารถของตัวเองได้นั้นก็คือการรีเซ็ทความทรงจำของพวกอินโนเวดเธอจังได้ทำการรีเซ็ทความทรงจำของ รีเจ็ตต้า เพื่อให้ทราบข้อมูล"กลุ่ม6สหาย" เเละทันใดนั้น รีพก็ได้รับเเจ้งว่าเกิดเหตุการณ์ที่ ลิฟท์วงโคจรพัง(Break Pillar)รีฟก็ ขับ1.5ออกไปช่วยเเต่ก็โดนบีไซด์ยึดร่างไปอีก เเต่ก็ได้ฟอน มาช่วยเอาไว้ เเละก็ได้ทำลายตัวขับของ1.5กันดั้มไปอีกด้วย ทำให้รีพกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง....

หลังจากนั้น รีพก็ถูกพวกอินโนเวเตอร์ของกลุ่มริบบอร์น อัลมาร์คมาชักชวนให้เข้ากลุ่ม เเต่รีพก็ปฏิเสธไป เเละหลังกจานั้นเขามุ่งหน้าไปทั่วโลกเพื่อที่จะจามหา"กลุ่ม6สหาย"ต่อไป...ฟอนกับฮายาโนะ ก็หายตัวไป ท่ามกลางกระแสแห่งโลกที่แปลเปลี่ยนไปสู่สงครามใหญ่ระหว่าง CB+คาทารอน กับ อินโนเวด+A-LAW......

Gundam oo awakening of the trailblazer

      แม้โลกจะเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขแล้วก็ตามที แต่โลกในปี ค.ศ. 2312 กลับพบกัย "สิ่งที่ไม่เคยรู้จัก" เข้าโจมตีคนบางกลุ่มบนโลก สิ่งนั้นถูกเรียกชื่อว่า "สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนรูปร่างจากนอกโลก" หรือเรียกสั้นๆว่า ELS (เอลส์) จุดประสงคร์ของ ELS คืออะไรกันแน่? และในช่วงที่ไม่อาจเข้าใจกันได้ ELS ที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 , 000 ก.ม. ที่พบที่ดาวพฤหัส ก็กำลังมุ่งหน้าเดินทางมาที่โลกด้วยความเร็วสูง และถ้าปล่อยไว้โลกจะถูก ELS พุ่งชนอยางแน่นอน ดังนั้นอินโนเวเตอร์ที่แท้จริง "เซ็ตสึนะ F เซเอย์" และ เซเลสเชี่ยลบีอิ้ง จึงมุ่งหน้าไปพบกับ ELS เพื่อทำการสื่อสาร แต่ ELS ที่ไม่ใช้แม้แต่ภาษาพูด และเอาแต่เข้าโจมตีมนุษย์จะสามารถเข้าใจกันได้หรือ?
นี่คือภารกิจสุดท้ายของเหล่ากันดั้มไมสเตอร์ ที่มีอนาคตของโลกและมนุษยชาติเป็นเดิมพัน

Gundam OOI 2314

เป็น Side Story ที่มีตัวเอกคือ เลโอ ซีก นักบินกันดั้ม จากหน่วยของเฟเรตเช ที่ทำงานในเนื้อเรื่องระหว่างตอนที่เหล่ากันดั้มไมสเตอร์ ซ่อมเเซมหุ่นอยู่ ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องก่อนภาค Gundam oo awakening of the trailblazer ที่บอกที่มาของเหล่า ELS ว่ามีที่มาอย่างไร

 

Gundam OON

 

เป็นนิยายภาพที่มีเรื่องราวเสริมในส่วนเนื้อหาหลักของ 00 โดยมากจะแสดงข้อมูลของฟังศัตรู เช่นการวิเคราะ ความเสียหายของอินัค แพททริก ในตอนแรกของ 00 การบวงสรวงเปิดตัว MS ของกองทัพ Union การรวมตัวเป็นกองกำลังกองทัพโลกหลังจบสงคราม fallen angle หรือแม้กระทั้งข้อมูลการวิเคราะของ"เท้า" MS เอ้น

 

 

 

Gundam OOV Season 1

 

     จริงๆต้องบอกก่อนว่าเนื้อหาใน 00V เปิดเรื่องจากคอลัมน์ สงครามโดยข้อเขียนของโรเบริต สเปนเซอร์ ในปี 2327 หรืออีก 20 ปีข้างหน้าจากเหตุการณ์ที่CB เข้าแทรกแซงโลกครั้งแรก โรเบริต เล่าถึงเหตุการณ์พบเจอในช่วงที่ CB เข้าแทรกแซงสงครามเกี่ยวกับเหล่าอาวุธสงครามที่เขาพบ
ในช่วงปี 2307 ที่ CB เข้าแทรกแซง โรเบริตเป็นนักข่าวที่มีชื่อเสียงจึงงได้ถูกเชิญไปพบเหตุการณ์ต่างๆมากมาย จนอัลเดรฮันดรอเล็งเห็นความสามารถในการชักจูงโลกของเขา นำไปสู่การชักชวนให้มาเป็นเกียติเป็นพยาน ในการทดลอง ms รุ่นใหม่ของเขา วรนุช พร้อมกับนักบินทดสอบฝีมือดี เดโบลาส กาเลียน่าของ UN ที่เคยได้รับเชิญไปทดสอบ MS ของ 3 มหาอำนาจมามากมายมาเป็นนักบินทดสอบวรนุช ด้วย การทดสอบทำขึ้นที่โคโลนี่ L1 ด้วยความที่อัลเดรฮันดรอเปิดเผยแผนการส่วนใหญ่ของเขา ทั้งการที่เขาเป็นสมาชิก CB ที่ทรยศ และการพาชม GN-X ที่กำลังสร้างในโคโลนี่ L1 นี้เอง(ประกอบกับการที่ริบบอร์นยแอบบอกแผนการทั้งหมดของอันเดรฮันดรอให้ฟัง) ทำให้ โรเบริต และ กาเลียน่า นั้นมีความไม่เห็นด้วยและไม่พอใจ ในตัวอัลเดรฮันดรอ แต่ด้วยบุคลิกที่สุขุมของอัลเดรฮันดรอ ได้สร้างความหวาดกลัวให้แก่ทั้ง 2 คนเช่นกัน โรเบริตและกาเลียน่า อาศัยจังหวะหนีออกมาจาก โคโลบนี่ L1 โดยใช้วรนุชแต่ก็ถูกขัดขวางจึงจำต้องเปลี่ยนไปใช้ แฟ๊ก โคโลนี่ การ์ดแทน
แน่นอนว่าสำหรับอัลเดรฮันดรอแล้วพวกโรเบริตทราบเรื่องราวต่างๆเยอะไปเกินกว่าที่จะปล
่อยไปได้ในเวลานี้ จึงมีการไล่ล่า โรเบริตได้พยายามติดต่อและส่งข้อมูลที่เขาทราบให้แก่คุนิเอะ ขณะที่ แฟ๊กโคโลนีการ์ดที่เขาขับกำลังจะโดนทำลายก็โดนลำแสงสีเขียวเข้าช่วยไว้ แผ่นหลังของ MS สีแดงปรากฏต่อหน้าเขา พร้อมการติดต่อแนะนำตัว ฟอน สปาค ก่อนที่จะลุกไล่ทำลาย MS ที่ไล่ล่าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
    หลังจากจบการต่อสู้องกรณ์ที่ชื่อว่า เฟรันชูเทได้เข้ามาช่วยพวกเขา องกรณ์ที่มี MS Gundam ในครอบครอง ที่นั่นเองทำให้เขาได้พบพาร์ทอาควาสของนาดเล่ย์ และด้วยความสนใจในเรื่องเครื่องยนต์กลไก ทำให้โรเบริต ออกปากถามชิรินวิศวกรประจำเฟรันชูเทไปอย่างลืมตัว แต่ชิรินก็อธิบายอย่างเป็นมิตร(แม้จะมีฟอนคู่เชิงขำร่วมแจมไปบ้าง) สร้างความประหลาดใจให้กับ โรเบริตและกาเลียน่าเป็นอย่างมาก โดยเพียงยื่นเงื่อนไขการเผยแพร่ข้อมูลในช่วงนี้ให้ โรเบริตนั้นประทับใจในตัวเฟรันชูเท จึงทำตามเงื่อนไข ส่วนกาเลียน่านั้น ก็ไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลใดๆ อาจจะเนื่องจากการที่ทั้งคู่ไม่ทราบว่า เฟรันชูเทเป็นส่วนหนึ่งของ CB หรือมีการยืนยันใดๆเกี่ยวกับความที่เกี่ยวข้องกัน
หลังจากการช่วยเหลือและการพบปะกันน้อยๆภายในยานของเฟรันชู ก็ได้ส่งโรเบริตและกาเลียน่ากลับสู่โลก จากการที่ทางเฟรันชูเมแน่ใจว่าอัลเดรฮันดรอไม่น่าให้ความสนใจแก่ทั้ง 2 คนแล้วเนื่องจากการปรากฏตัวของ 3 โทรน ที่เป็นที่น่าสนใจมากกว่า แต่ทั้ง 2 คนก็เก็บตัวอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะจบดเวยการที่ได้เห็นหนังสือในอีก 20 ปีต่อมา ลงคอลัมน์เรื่องราวของ นาดเล่ย์อาควอส โดยข้อเขียนของโรเบริต สเปนเซอร์
    ภายหลังกาเลียน่าได้กลับเข้า UN พร้อมเปิดโปงแผนการต่างๆของอัลเดรฮันดรอหลังจากปฏิบัติการ เทวดาตกสวรรค์จบลง(Fallen angle, SS1) จึงได้รับความดีความชอบ(แน่นอนว่าผู้ชักใยความดีความชอบคือริบบอร์น) ได้รับมอบ ms รุ่นใหม่ Advanced GN-X สำหรับเธอแล้วเปรียบดั่งแกนนำของ UN ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อมี GN-X III ถูกผลิตออกมาพรเมกับการจัดตั้งกองทัพโลก กาเลียน่าก็ปฏิเสธที่จะขับ เนื่องจากความเห็นส่วนตัวที่ว่า GN-XIII เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพโลกโดยเฉพาะ ส่วนโรเบริตกลับเข้าสู่สังคมปกติช่วงเวลาไล่เลี่ยกับกาเลียน่า แต่ด้วยฝีมือข้อเขียนต่างๆของเขา ประกอบกับการที่ริบบอร์นต้องการควบคุมข่าว เขาจึงโดยจำกัดในหลายๆด้าน จนกระทั้งมหาอำนาจทั้ง 3 รวมตัวเข้ากับ UN เป็นกองทัพโลกการข่าวทั้งก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพโลกจนถึงขั้นเกือบสมบูรณ์แบบ ผู้ขัดขืนไม่โดย เงินหรือ ตำแหน่งซื้อ ก็โดนเก็บ ส่วนใหญ่ล้วนทำตัวเงียบๆตามกระแสสังคมไป (เหมือนประเทศไหนก็ไม่รู้เนอะ) ทำให้งานข่าวของโรเบริตถูกจำกัด จนภายหลังชิรินได้ติดต่อหาโรเบริตอีกครั้งพร้อมจัดฉากให้ได้พบกับเอียน วิศวกรของ CB(โดยที่โรเบิรตรู้เพียงเป็นตาลุงบ้าอาวุธเหมือนกันเท่านั้น) และด้วยความถูกคอนี้เองทำให้เขามีส่วนร่วมในการพัฒนา MS gundam ของ CB ไปโดยไม่รู้ตัว

 

 

Gundam OOP เล่ม 1

 

00P Past One Space
         เริ่มเรื่องด้วยชาร์ลนักบินใหม่ที่ เวด้าเลือกมาได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก รุยโด้ พร้อมพาชมโคโลนี่ กรุงเทพ เหล่าไมส์เซอร์ของกันดั้มรุ่นที่ 2 และกันดั้ม
ช่วงครึ่งแรกนั้นเป็นเพียงการพาเราชมการทดสอบ และปฏิบัติงานจริงเพื่อชมสมรรภนะของกันดั้มและเหล่านักบิน
-874 นักบินลึกลับกับการยิงที่ไม่มีพลาดเหมือนคอมพิวเตอร์คำนวณไว้ กับนิสัยแปลกประหลาดที่ไม่ยอมพบเจอใครตรงๆ
-รุยโด้ นักบินอารมณ์ขันแต่พอเวลาเอาจริงรู้สึกได้ถึงความกดดัน จนเพื่อนๆสามารถเชื่อใจได้
-ชาร์ล นักบินใหม่แม้ฝีมือจากข้อมูลพื้นฐานจะดีแต่ยังปรับตัวกับกันดั้มไม่ค่อยได้ยังทำตัวเสล่อบ้าง
ภารกิจโดยทั่วไปของทีมคือการทดสอบ และ แก้ปัญหาอื่นๆที่เวด้าส่งมาจากวงโคจรภายนอกเท่านั้น เช่น ทำลาย อุกาบาตที่จะพุ่งชน ลิพวงโคจร(ตอนนั้นกำลังก่อสร้าง) และขัดขวางคณะสำรวจ รวมถึงกองโจร รวมถึงยานรบของ 3 มหาอำนาจที่มาค้นพบ โคโลนี่ กรุงเทพโดยบังเอิญ

หลังจากกันดั้มทั้ง 3 เครื่องพัฒนาเสร็จแล้วก็เปลี่ยนไปพัฒนาต่อที่โลกเพื่อทดสอบระบบของ 3 เครื่องและกันดั้มเครื่องใหม่ที่โลก แต่ขณะขนส่งก็ประสบปัญหาเกิดสงครามขนาดเล็กระหว่างสหพันธ์และกลุ่มก่อการร้าย มาตัดขวางเส้นทางพอดีกันดั้มทั้ง 3 เครื่องต้องทำลาย ms ทั้ง 2 ฝ่ายภายในเวลา 36 วินาทีตามการคำนวณของเวด้า เพื่อป้องกันการแจ้งข่าวข้อมูลของกันดั้ม

 

00P Past Two Earth
        กันดั้มไมส์เตอร์รุ่น 2 พร้อมกันดั้มได้ลงมาสู่โลก(เพื่อวิจัยสำหรับใช้งานบนโลกต่อ) ได้เข้าปะทะกับผู้ก่อการร้าย และ สหพันธ์ส่วนหนึ่ง [เป็นทั้งการทดสอบประสิทธิภาพ และ อารมณ์ของนักบินเองทำให้เกิดเรื่องขึ้นทำให้ต้องฆ่าทั้งนักบินฝั่งโน้นในบาง กรณีที่ล่อแหลม
เหล่าไมส์เตอร์ได้เข้าพบกับ สมาชิก CB ที่โลก ได้แก่ เอียน (ช่างของปโตเลไมออสนั่นแหละ) ที่เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ และหมอ โมเลโน่(ตัวประกอบที่มาแปปเดียวตายใน 00 ภาคหลัก)[รู้ว่าหมอเป็นคนดึงเอียนเข้า CBด้วย] คอยสนับสนุนเรื่องซ่อมบำรุงและเรื่องเสบียงบนโลก และที่นี่เองทำให้ทราบประวัติของ มิเลน่า ว่าทำไมถึงเป็นนักโทษ จากโรคระบาดชื่อดังที่ทราบจากโมเลโน่ผู้เป็นหมอนั่นเอง และตั้งแต่ มิเลาน่าได้ใช้กันดั้มทำให้อาการไม่ค่อยดีทำให้รุยโด้คัดค้านอย่างออกนอกหน้า จากการใช้กันดั้มเครื่องใหม่อาบูโฮลให้แก่มิเลน่า ทดสอบจนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้
ทางด้านเอียนได้พัฒนาเตา Gn drive ใหม่ที่สามารถกักเก็บพลังงาน GN และ กระจายพลังงานให้เสถียรมากขึ้นให้แก่ แอสเทรอา เป็นต้นแบบของ Gn drive แบบทรงกรวย         เมื่อนานเข้าเหล่าผู้สังเกตการณ์เสนอแก่เวด้าให้เหล่ากันดั้มรุ่นที่ 2 ทดลองเข้าแทรกแซงสมรภูมิจริงๆ ซึ่งทำให้รุยโด้แสดงท่าทางคัดค้านการออกปฏิบัติการของมิเลน่าอย่างออกนอกหน้า จนถึงขั้นนำแอสเทรอา ออกปฏิบิตการคนเดียวหลายครั้ง เพื่อไม่ให้มิเลน่าได้ออกสู้ แต่นั่นก็กลับทำให้ ชาร์ลนั้นเสถือนใจแทนเนื่องจากเธอเองก็แอบชอบรุยโด้อยู่ สังเกตการณ์ท่านหนึ่งเห็นใจเนื่องจากเวด้าไม่มีความรู้สึกย่อมไม่เข้าใจแต่จะช่วยออกความเห็นเสนอแก่เวด้าให้

       หลังจากที่ กันดัมรุ่นที่ 2 พัฒนาเสร็จอย่างเป็นทางการ คอยเพียงการทดสอบเข้าแทรกแซงสงครามจริง CB ก็เริ่มโครงการพัฒนากันดั้มรุ่นที่ 3 ต่อ ทำให้เอียนนั้นมีงานยุ่งมาก เหล่าไมส์เซอร์มีเวลาว่างมากขึ้น รุยโด้และมิเลน่าได้แต่งงานกัน โดยมีชาร์ลที่ทำใจได้แล้วเป็นพยาน ในปีถัดมามิเลาน่าได้ให้กำเนิดเด็กหญิงทั้งสามคนปรึษากันเรื่องชื่อและตั้งชื่อให้ว่าเฟส โดยส่วนใหญ่แล้วมิเลาน่าเป็นคนเลี้ยงดูแถมยังเก็บไดอารี่ของเธอไว้ในในระบบเผื่อในกรณีฉุกเฉิน เพื่อที่เฟสจะได้รู้เรื่องครอบครัวของเธอเมื่อโตขึ้น ส่วนรุยโด้นั้นเนื่องจากมีส่วนร่วมในการพัฒนากันดั้มรุ่นที่ 2 กว่าครึ่งและเป็นเพียงไม่กี่คนในโครงการจึงเข้าร่วมพัฒนากันดั้มรุ่นที่ 3 ด้วย ทำให้มีเวลาไม่มากแต่ทุกครั้งที่ว่างมาเจอลูกมักจะพูดอยู่บ่อยๆว่า “กันดั้มรุ่นที่สามนั้นเยี่ยมมาเลยล่ะเฟส” โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเฟสจะได้ใกล้ชิดกับกันดั้มรุ่นที่ 3 ถึง 4 เครื่อง และแล้ววันพักก็จบลง เมื่อกลุ่มก่อการร้ายเข้าโจมตีลิฟวงโคจรของสหพันธ์ครั้งใหญ่ การแทรกแซงจริงที่ยังไม่เริ่มมาจากการที่เวด้าคอยสงครามจริงๆเกิดขึ้นนั่นเอง ขณะที่ปฏิบัติการณ์นั้น พลูโตเน่นั้นมีปัญหาเกี่ยวตัวกักเก็บพลังงาน GN จนรั่วไหลออกมา ชาร์ลแทบจะคุมสติไม่อยู่แม้จะได้รับอนุญาตให้ใช้คอร์ไฟเตอร์หนีออกมาและให้ เซลาดัตทำลาย ตัวเครื่องพลูโตเน่ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานแล้วก็ตาม แต่ชาร์ลไม่สามารถคุมสติพอที่จะใช้งานคอร์ไฟเตอร์ได้ รุยโด้และเมลิน่าจึงเข้ามาช่วยแต่อนุภาค Gn นั้นรั่วจนถึงลิมิตที่เครื่องพลูโตเน่จะรับได้ แม้ 874 จะแจ้งให้รุยโด้และมิเลน่านั้นถอยออกมาแต่ทั้ง 2 คนไม่สามารถทิ้งเพื่อนได้ 874 (ซึ่งทราบดีว่าทั้ง 2 ไม่ทราบถึงความสามารถของเธอเนื่องจากเป็นความลับและไม่มีเวลาอิบายใดๆ)จึงตัดใจสั่งให้ใช้งานคอร์ไฟเตอร์ของพลูโตเน่ผ่านทางเวด้า เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น คอร์ไฟเตอร์สามารถนำชาร์ลหนีออกมาได้แบบหวุดหวิด แต่ตัวชาร์ลเองก็อาบอนุภาค GN บางส่วนที่รั่วเข้าค๊อทพิตคอร์ไฟเตอร์ไป แต่ที่หนักกว่านั้นคือ แอสเทรอาและอาบูลโฮที่อยู่ในรัศมีการระเบิด แม้ตัวเครื่องไม่ได้รับความเสียหายมากนักแต่อนุภาค GN จำนวนมากอันเนื่องมาจากพลุโตเน่นั่นมีตัวกักเก็บที่ใหญ่ที่สุด อาบจนทะลุเข้าไปในตัวเครื่องได้เป็นปริมาณมาก จนทำให้รุยโด้และ เมลิน่าอาบอนุภาค GN แบบตรงๆไปเต็มๆ ภาพที่ชาร์ลเห็นเป็นครั้งสุดท้ายขณะที่เซเลดัสของ 874 เข้ามาช่วยคอร์ไฟเตอร์ของตน มีกันดั้มอีกตัวที่ไกลออกไปกำลังเข้าช่วยเหลือ รุยโด้และเมลิน่า กันดั้มเครื่องนั้นคือ โอกันดั้ม หลังจากนั้นเธอก็สลบไป ขณะที่เธอจะฟื้นกลับเพ้อถึงเหตุการณ์นั้น แท้จริงไม่ใช่เธอไม่มีสติพอทีจะใช้งานที่จะใช้คอร์ไฟเตอร์แต่จริงๆแล้วระบบคอร์ไฟเตอร์นั้นโดนบล็อกจนใช้งานไม่ได้ต่างหาก อาจจะมาจากใครบางเข้าแฮ๊คหรือไม่นั้นเธอไม่ได้สนใจ เพราะขณะนั้นเธอกำลังเป็นห่วงคน 2 คนนั่นคือรุยโด้และมิเลน่า พร้อมประโยคสุดท้ายที่ทั้ง 2 คนพูดกับเธอ “พวกเราต้องรอด” ชาร์ลฟื้นมาในห้องคนไข้ที่มีเพียง เอียนและโมเลโน่คอยเฝ้าอยู่ได้ถามถึงรุยโด้และมิเลน่า คำตอบที่ได้รับนั้นคือทั้ง 2 เสียชีวิตจากการอาบอนุภาค GN โดยตรงเป็นเวลานานและมากเกินไป ส่วนชาร์ลเองนั้นได้รับแผลเป็นที่ตาเนื่องจากเซลส์นั้นเสื่อมไม่สามารถรักษาได้รวมไปถึง ร่างกายด้านซ้ายกว่าครึ่งและผมที่สีผิดเพี้ยนจากเซลส์ที่ผิดเพี้ยนที่เป็นผลมาจากการอาบอนุภาค GN รุยโด้นั้นเหลือไว้เพียงแจ๊คเก็ดไว้ต่างหน้าเพราะการอาบอนุภาคนั้นแรงเกินไปทำให้เขาตายคาทีและเนื่องจากกลัวติดเชื้อที่อาจจะเกิดจากผลกระทบจากอนุภาค GN ทำให้ต้องทำลายศพทิ้งทันที แต่มิเลน่าที่ยังไม่ตายทันทีได้อัดเสียงไว้ให้แก่ชาร์ลว่า “จงมีชิวิตอยู่ชาร์ลและทำให้พวกเราเห็นว่า เธอมีชีวิตอยู่อย่างไร” ชาร์ลได้แต่ร่ำไห้ จากผลกระทบนี้ชาร์ลไม่มีสภาพจิตใจพอที่จะเป็นไมส์เซอร์ได้อีก และเหล่าผู้สังเกตุการร์ก็ลงความเห็นเกี่ยวกับร่างกายของชาร์ลว่าไม่สามารถเป็นไมส์เซอร์ได้ ชาร์ลเองยังคงอยู่กลับ CB ต่อไปเนื่องจากสภาพที่ผิดปกติทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติได้ และตัวเธอเองต้องการสานฝันของรุยโด้ให้ลุล่วงด้วยกันดั้มที่รุ่นที่ 3 ที่พวกเขามีส่วนพัฒนาขึ้น ภาพฉายให้เห็นกันดั้ม 5 เครื่องที่ อยู่ในระหว่างพัฒนาที่แม้ยังไม่เสร็จแต่เราก็พอเดาได้ว่านั่นคือ Exai, Dynames, Kyrios, Nadleeh และกันดั้มลึกลับอีกหนึ่งเครื่องที่เหมือนจะพัฒนาไปได้ไกลที่สุดใน 5 เครื่อง

 

 

Gundam OOP เล่ม 2

 

       เรื่องราวเกิดขึ้นใน ปี 2302 5 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์ใน 00 S1 5 ปี และหลัง 00P S1 5 ปี เล่าเรื่องของกันดั้มเครื่องที่ 5 หรือจริงๆแล้วเรียกว่าเครื่องที่ 0 จะถูกกว่า ในกันดั้มรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับเอ็กเซีย และไมส์เซอร์ กลุ่มแรกของรุ่นที่ 3 ได้แก่ เกรฟ ไวโอเล่น และ ฮิซ่าเฟรมมี่ โดยหน้าที่ของเขาไม่ใช่การเข้าแทรกแซงสงครามแต่เป็นการเก็บข้อมูลสถานการณ์ของโลกและทดสอบศักยภาพย์ของอาวุธในโลกว่ากันดั้มเหนือกว่าเพียงใด หนึ่งในไมส์เซอร์ของทีมนั้นควบตำแหน่งเอเจ้นไปด้วยนั่นคือเกรฟ หน้าที่ของเขาคือการคัดตัวนักบินของกันดั้มหลักที่ใช้เข้าแทรกแซงสำหรับเข้านั้นได้คัดตัวถึง 3 ใน 4 คน หลักๆแล้วเวด้าให้เกรฟความสำคัญกับเหล่าเอสไพล๊อตของทั้ง 3 ฝ่ายในการคัดตัวและเป็นการทดสอบฝีมือของเอสไพล๊อตไปในตัวด้วย ส่วนฮิซ่า รับหน้าที่แทรกซึมตรวจสอบสภาพสังคมในโลก แล้วด้วยเกรฟที่ประเมินนักบินกันดั้มนั้นต้องสมบูรณ์แบบเกินไปทำให้ไม่สามารถคัดตัวใดๆได้ ส่วนฮิซ่านั้นเอาแต่สนุกกับสังคมโลกมากกว่า แต่จากความสนิทสนมกันประกอบกับความที่มีไมส์เซอร์ที่ไม่สมบูรณ์แบบของฮิซ่าที่ได้เป็นไมส์เซอร์อยู่ทำให้เกรฟยอมเปิดใจขึ้นบ้าง ทำให้ นีล ดีแลนดี้ ชาวไอริส แม้ความสามารถในหลายๆด้านจะต่ำกว่าคนอื่นที่เวด้าคัดมาให้ มีความแค้นใจที่รุนแรง แต่มีความแม่นยำที่สูงมากที่เข้ากับสเป็คของไดนาเมสพอดี จึงได้รับเลือก

        นอกจากนี้ยังได้รับหน้าที่ในการตรวจสอบและเก็บข้อมูลของสมาชิกคนอื่นๆในองกรณ์ หนึ่งในนั้นคือ เจ้าหน้าที่ยุธการณ์ ลิซ่า คุโจ แห่ง AEU แต่เกรฟกลับไปตรวจสอบพบเหตุการณ์ที่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับคุโจ แทน เมื่อ AEU จัดทัพไล่ล่า กองทัพสหพันธ์ HRL โดยขนาบด้วย 2 กองกำลัง 2 ฝ่ายยุทธการฝีมือดี และด้วยความสมบูรณ์แบบนี้เองกลับเป็นการถล่มกันเองของ AEU ทั้ง 2 กลุ่ม เหตุมาจากข่าวลวงของ HRL ที่ปล่อยไปว่ายึด ms ของ AEU ประกอบกับในหมู่นักบิน AEU และ อารมณ์ ความ ยโส มั่นใจในตัวเอง กับ ฝ่ายยุทธการณ์มากเกินไป ของนักบิน ทำให้เกิดเหตุการณ์ เข้าใจผิด ตีกันเองขึ้นขณะที่เกรฟถอนตัวนี้เองทำให้ทราบถึงกองกำลัง HRL ที่กำลังเข้าไปตีซ้ำ AEU อยู่เวด้าจึงสั่งให้นำเรเซลเข้าขัดขวางเพื่อช่วยเหลือคุโจ บุคลากรที่เป็นเป้าหมาย โดยให้ฆ่าทิ้งทั้งหมดเพื่อปกปิดความลับของกันดั้ม แต่ในกลุ่ม HRL นั้นมีซุปเปอร์โซลเยอร์พร้อม เทียเหล่งรุ่นพิเศษซือทู๋ อยู่ด้วยทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยืดเยื้อจนเหลือเพียง ซือทู๋ กับเรเซลกันดั้มเท่านั้น จนเวด้าส่ง Gn sefer พร้อมฮิซ่ามาช่วยเสริม แต่แล้ว ลีโอนาร์ด ซุปเปอร์โซลเยอร์ถึงขีดจำกัดล่าถอยไป เกรฟนั้นกลับได้รับคำสั่งของเวด้าให้ปล่อยไป เนื่องมาจากเวด้าทราบภายหลังว่า เลโอนาร์ดนั้นถูกส่งมาเพื่อโฆษณาขอทุนจาก HRL ในการพัฒนาโครงการ super soldier ของสภาบันวิจัย ทำให้ความผิดพลาดนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เรื่องกันดั้มจึงไม่สามารถเพล่งพลายออกไป การต่อสู้ทังหมดของเรเซลตกอยู่ภายใต้สายตาของ นักบิน AEU คนหนึ่งที่ถูกส่งมาช่วยเหลือกองทัพ AEU ฟอร์น สปาร์ค พร้อมแสยะยิ้มอย่างมี นัย
      หลายวันต่อมา เกรฟ ได้เข้ามาสืบค้นหานักบินตามปกติได้เจอกองทัพ AEU จำนวนมากเข้าจู่โจมอย่างหนัก แม้จะสามารถชนะมาได้ผู้นำของกลุ่มได้มาปรากฏตัวต่อหน้ายอมแพ้ต่อโดยดี พร้อม อากริสซ่า ไทป์ เซเว่น นั้นคือฟอร์น สปาร์ค แต่กลับเป็นแผน ใช้สนามพลังพลาสม่าช๊อตใส่เรเซลที่ส่งผลต่อนักบินอย่างรุนแรง เกรฟจึงทำเป็นแกล้งตาย เพื่อหลอก ฟอร์น จนสามารถชนะมาได้ ฟอร์นก็ยอมแพ้ไปเฉยๆพร้อมกลับบอกว่าเรื่องเรเซลนั้นจะไม่บอกใคร เกรฟยื่นเรื่องขอเวด้าให้ไว้ชีวิตฟอร์นเนื่องจากสนใจในตัวฟอร์นในฐานะนักบินเหมือนกัน ดังนั้นฟอร์นจึงถูกไว้ชีวิต

        กลับสู่อวกาศเกรฟได้ทำการทดสอบ เรเซล ฟอร์มอื่นๆกับ ฮิซ่า และได้พับกับนักบินเนเดลกันดั้มที่ เวด้าเลือกมา ทีเรีย เออเด้ สร้างความแคลงใจแก่เกรฟมาก จนนำไปสู่การทดสอบภาคสนามของเกราะเวอร์ทิว ฟิสิคัล และ เรเซล เซเฟอร์ ฟอร์ม โฟร ทู ไฟส์ อุบัติเหตุระหว่างทดสอบทำให้ Gn sefer ของ ฮิซ่าโดนยิงอย่างจัง ขณะที่กำลังนำตัวไปรักษาพยาบาลนั้น แม้แต่หมอโมเลโน่เองก็ไม่ได้ร่วมการรักษาด้วย แต่ปรากฏว่า ฮิซ่ากลับแทบไม่เป็นอะไรเลย มีรอยแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สร้างความแปลกใจให้กับพวกเกรฟเป็นอย่างมาก
      ตัดมาที่โลก กลุ่มลีโอนาร์ด กำลังพักอยู่กลางป่าหลังจากที่เจอศึกหนักกับฟอร์นมา ฮาเลลูย่าก็มาทักทายลีโอนาร์ด เนื่องจากลีโอนาร์ดมีภารกิจลับเพื่อล่าฮาเลลูย่าด้วย ว่า ตัวเขา(ฮาเลลูย่า) กำลังไปในที่ ที่ลีโอนาร์ดตามไปไม่ได้(CB?) ก่อนที่จะจากไป เกรฟที่แคลงใจทั้งในเรื่องทีเรียที่เวด้าเลือกและฮิซ่าที่น่าจะตายแล้วหรือเจ็บหนักมากกว่านี้ ก็ตรวจสอบข้อมูลหลายๆอย่างในเวด้าร่วมกับชาร์ล ทำให้ทราบถึงข้อมูลของเหล่า อินโนเวเดอร์ ดีไซส์ฮิวแมน ที่สามารถขึ้นมาโดยกำหนดความสามารถต่างๆและยังสามารถสื่อสารหรือกระทำการใดๆผ่านเวด้าได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ทำให้มีความสามารถมากกว่ามนุษย์ และยังพบอีกว่าตัวเกรฟเองก็เป็นอินโนเวเดอร์เช่นกัน โดยจริงๆอินโนเวเดอร์ในนิยามของเกรฟนั้นอินโนเวเดอร์เป็นทั้งสิ่งที่ด้อยกว่ามนุษย์ปกติในเวลาเดียวกัน เพราะความรู้ที่บันทึกให้นั้นไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้ย่อมไม่ค่าอันใด ข้อมูลของฮิซ่านั้นสำคัญกว่าคือทางเกรฟเคยเข้าไปดูแล้วครั้งนึงและด้วยความสงสัยในตัวตนเลยลบข้อมูลบางอย่างไปแต่กลับมีกลับเข้ามาใหม่ให้ต่างไปจากเดิม ขณะที่กำลังปรึกษากันกับชาร์ลอยู่นั้นเกรฟก็ได้ทราบถึงถึงการที่เขาถูกถอดออกจากการคัดเลือกนักบินกันดั้มเครี่องสุดท้าย EXIA

        จากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของ ฟอร์น สปาร์ค และ พวกลีโอนาร์ดทำให้ต้นสังกัดทั้ง AEU และ HRL เริ่มแคลงใจต่อเป้าหมายทั้ง 2 คน เวด้าจึงสั่งให้เกรฟไปเก็บทั้ง 2 คนเสีย เป้าหมายแรกคือลีโอนาร์ด จากการปะทะกันหลายครั้งทำให้ทราบถึงจุดอ่อนของลีโอนาร์ด และ เดลฟี้ ที่ลีโอนาร์ดมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานในจำกัด เกรฟจึงหันมาสู้แบบถ่วงเวลาแทน เมื่อลีโอนาร์ดหมดสภาพเกรฟจึงค่อยรุกต่อแต่ฮิซ่าก็เข้ามาแทรกทำให้เกรฟนั้นพลาด ลีโอนาร์ดเลยหนีไปได้

         จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกรฟต้องมาเคลียกับฮิซ่า แต่ก็ปรากฏว่าดวงตาของฮิซ่านั้นเรืองแสงและลั่นไกยิงใส่เกรฟ จนปางตายฮิซ่าเหมือนไม่ใช่คนละคน อยู่ๆฮิซ่าก็กลับเป็นปกติพร้อมกลับตะลึงในยิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งที่เกรฟพูดสุดท้ายก่อนสิ้นใจนั่นคือ “ฉันรู้นายไม่ได้ทำ” จากการโดนยิงของเกรฟเหล่า CB วุ่นวายอย่างมาก โมเลโน่นำศพเกรฟไปเพื่อหวังจะยื้อชีวิตไว้ 874 สั่งให้เอียนรีบพัฒนา MS ของตนเพื่อรับมือจากกลุ่มผู้ทรยศแม้ยังไม่แน่ใจนัก แต่ชาร์ลและ 874 มั่นใจว่าการที่เกรฟโดยยิงนั้นเป็นสัญญาณบอกว่า พวกเขา(ผู้ทรยศ)เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว กันดั้มรุ่น 3 ทุกเครื่องถูกสั่งเก็บไว้เพื่อป้องกันการนำเตาไปใช้ นักบินทั้งหมดที่เกี่ยวกับแผนหลัก(ในอีก 5 ปีต่อมา) ถูกกักตัว 874 เข้าพบ 887 เพื่อขอยืมร่างของ 887 ในการขับกันดั้มเครื่องใหม่ เนื่องจากถ้าเธอขับเองต้องควบคุมผ่านฮาโล่ ซึ่งไม่สามารถใช้งานดีเท่าร่างมนุษย์โดยให้เงื่อนไขว่าถ้าเธอทำร่างของ 887 เสียหายให้ 887 รับหน้าที่แทน 874 ได้เลย แม้ 887 ไม่ค่อยพอใจนักเพราะกลัวร่างเสียหายแต่ก็ต้องยอมแต่โดยดี
        รุ่งอรุณวันถัดไปแม้ในอวกาศจะไม่เห็นดวงตะวันสุริยะขึ้นแต่สำหรับ CB กลุ่มนี้กลับเห็นดวงตะวันแห่งการต่อสู้ปะทุขึ้น เอียนสร้างกันดั้ม ให้ 874 จนเสร็จตั้งชื่อให้ว่ากันดั้มอัลเทรมี่ ใช้เตาของเรเซลกันดั้ม(ซึ่งก็คือเตาของ 0 กันดั้ม) ที่ไม่สามารถให้ใครใช้ได้เพราะเวด้าบรรทุกให้เกรฟเป็นผู้ใช้เรเซลเพียงผู้เดียวและไม่มีใครเสี่ยงเข้าแก้ไข ในตอนนี้เนื่องจากกลัวเวด้าโดนแฮ็ค ข้อมูล 874 สั่งให้เอียนไปรวมกลุ่มกับโมเลโน่ 874 นำอัลเทรมี่ออกและได้เผชิญหน้ากับ ms 2 เครื่องนั่นคือ Gn cannon การต่อสู้ได้ปะทุขึ้น การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดแต่ อัลเทรมี่กันดั้มได้ติดตั้งไทรอัลซิสเต็มไว้ 874 เองก็เป็นโปรแกรมทดสอบจึงใช้งานออกมา ทำให้ Gn cannon ทั้ง 2 โดนผนึกไว้ ทาง 874 จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียด แต่แล้วระบบไทรอัลก็โดนยกเลิกโดยทาเรียที่โดนควบคุมอีกคน ตัวการใหญ่ได้ติดต่อสื่อสารกับ 874 เผยตัวออกมาพร้อม ms อีกเครื่อง วันกันดั้ม(หรือไอกันดั้ม) ms สำหรับ อินโนเวเดอร์ ที่ต้องใช้ควอตัมในสมองร่วมควบคุม บีไซส์ เพนด์ อินโนเวเดอร์ผู้มีความสามารถ บันทึกสั่งต่างๆใส่ให้กับอินโนเวเดอร์ได้ พร้อมเผยแผนการทั้งหมด เดิมทีนั้น บีไซส์ต้องการควบคุมฮิซ่า ให้ สังหารคนในทีมทั้งหมดแล้วโดยโยนให้ฮิซ่าเป็นคนทรยศกลับโดนขัดขวางซะก่อน โดยเกรฟที่ก่อนสิ้นใจได้ลบข้อมูลฮิซ่าทิ้งทำให้กลายเป็นข้อมูลลอย ไม่มีตัวเชื่อมต่อทำให้บีไซส์ไม่สามารถควบคุมฮิซ่าได้อีกอัลเทรมี่เลยรับศึกหนัก 3 ต่อ 1 จนอยู่ในขั้นวิกฤต ห้องนักบินโดนทำลาย ขณะที่ 874 กำลังจะโดนยิงนั้น เรเซลกันดั้มก็ออกมาป้องกันไว้ได้ เกรฟยังไม่ได้ตาย เนื่องจากก่อนที่ร่างกายจะรับอาการบาดเจ็บไม่ไหวนั้นเกรฟได้ย้ายตัวเองไปฝากไว้ที่เวด้าซึ่งขณะที่โมเลโน่พยายามรักษาร่างของเกรฟด้วยนาโนแมชชีนสำเร็จผลจากความร่วมมือของ เอียน เกรฟได้ติดต่อเข้ามา โมเลโน่ได้แจ้งว่านาโนแมชชีนจะยื้อร่างได้เพียง 30 นาทีเท่านั้น และเมื่อเกรฟย้ายมาลงที่ร่างนี้จะไม่สามารถย้ายกลับไปได้อีกเพราะนาโนแมชชีนจะมีผลต่อไปรบกวนระบบควอตัมทำให้ย้ายดาต้าไม่ได้ ส่วนเรเซลที่ไม่มีเตานั้น ได้นำเตาของกันดั้มรุ่นที่ 3 อีกเครื่องที่ยังสร้างไม่เสร็จมาใช้ เครื่องนั้นคือ Exia
     เกรฟเปิดฉากเข้าต่อสู้กับบีไซส์อย่างดุเดือดเกรฟลดจำนวนศัตรูด้วยการตัดระบบสั่งการควอตัมกับ Gn cannon เพื่อตัดขาด จากบีไซส์ และด้วยความบีไซส์มีพวกสามารถเพิ่ม เกรฟมีความสามารถลบ ทำให้หักล้างกันเอง ความสามารถของบีไซส์ไม่ป็นผล เกรฟที่มีความเยือกเย็นกว่าจึงยั่วบีไซส์ให้เข้ามาต่อสู้ระยะใกล้ที่เกรฟถนัด จนบีไซส์แพ้ไป ขณะที่เสียท่านั้นบีไซส์ได้ย้ายข้อมูลออกไปโดยส่งความสามารถบางส่วนแก่ริบบอร์นแต่การย้ายนั้นเกิดไม่สมบูรณ์ทำให้ริบบอร์นได้ความสามารถในการ “บันทึก” ของบีไซส์นั้นไปไม่สมบูรณ์ข้อมูลความทรงจำบางส่วนนั้นกระจัดกระจายออกไป

          เกรฟ แม้จะชนะฮิซ่าได้แต่ก็เหลือเวลาไม่ถึง 5 นาที สิ่งที่เกรฟทำสุดท้ายคือลบข้อมูลอินโนเวเดอร์ หลายๆคนที่เกี่ยวแผนหลัก ออกจากเวด้า เหมือนปลายสายด้านเดียวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการควบคุมได้แบบฮิซ่า พร้อมกับสั่งเสียกับฮิซ่าที่หมดสภาพเก็บตัวอยู่คนเดียว ให้ลุกขึ้น มีชีวิตอยู่ และทำงานของตัวเองให้เสร็จ ทำให้ฮิซ่าฟื้นตัวได้อีกครั้ง เรเซลกันดั้มที่เสียหายหนักเครื่องก็ดับลงพร้อมชีวิตของเกรฟ หน้าที่ของเกรฟได้จบลงแล้ว
       หลังศึกครั้งนี้ เรื่องราวทั้งเป็นที่รู้กันของคนในเหตุการณ์เท่านั้น ฮิซ่าหายสาบสูญ ร่างของบีไซส์ได้รับการซ่อมแซมและเก็บรักษาไว้ให้อินโนเวเดอร์คนอื่นต่อไป เหล่าไมส์เซอร์รุ่นที่ 3 ยังคงทำตัวปกติโดยไม่รับรู้ใดๆเลยเกี่ยวผู้ที่คัดเขามาเลย มีเพียงชาร์ลที่ได้รับข้อความจากเกรฟเรื่องนักบินคนสุดท้าย ซึ่งมียื่นไป 2 คนคือเซ็ตซึนะ และ อีโค้ ที่เหมือนกับหวยล๊อคอยู่แล้วว่า เซ็ตซึนะมีความสามารถสูงกว่าต้องได้นั้นน่าสงสัย ให้นำฟอร์นเข้าเป็นไมส์เซอร์ ด้วยเกรฟมั่นใจว่า ต้องสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้แน่ๆ ส่วนลีโอนาร์ดนั้นให้ปล่อยไปเพราะอายุของลีโอนาร์ดนั้นสั้นเป็นผลจากการทดลอง ทำให้ลีโอนาร์ดต้องการตายในสนามรบอย่างสมภาคภูมินั่นอง ชาร์ลเองก็เตรียมเสนอแผนการณ์องกรย่อยภายใต้ชื่อ เฟรันชูเท เพื่อที่จะแยกกลุ่มคนในเหตุการณ์นี้ออกจากกันเพื่อป้องกันการไล่ล่า และสร้างองกรณ์มาเพื่อสนับสนุน CB อยู่ในเงา ชาร์ลใช้องค์กรนี้เป็นข้ออ้างในการดึงฟอร์นเข้ากับ CB ส่วน อินโนเวเดอร์ถูกจับตามากขึ้นแม้ไม่ยืนยันนักริบบอร์น อัลมาร์คที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับบีไซส์หรือไม่ ก็ลดบทบาทเด่นในองกรณ์ลง เอียน โมเลโน่ หรือแม้แต่ชาร์ลเอง ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทราบถึงศัตรูในครั้งนี้ เนื่องจากศัตรูเป็นอินโนเวเดอร์ที่มีความสำคัญกับแผนการณ์การทรยศของอินโนเวเดอร์อาจจะทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันได้